ที่ตั้ง
เครื่อง CNC (Computer Numerical Control) คือ เครื่องจักรกลแบบอัตโนมัติที่มีการทำงานด้วยระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยตัวเครื่องจะทำงานตามแบบที่เราได้จัดใส่โปรแกรมการทำงานเข้าไป และสามารถใช้ได้หลายภาษา ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เครื่องจักรชนิดนี้กับงานโลหะที่ต้องการความละเอียดและแม่นยำ หรือมีความซับซ้อนสูง โดยมีจุดประสงค์ในสร้างเครื่อง CNC ขึ้นมาเพื่อให้สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติในแบบรวดเร็ว แม่นยำ และสามารถทำงานในแบบที่ซับซ้อนได้ดี ด้วยระบบมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการควบคุมมุมต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด ทำให้ชิ้นงานออกมาดีนั่นเอง
ข้อดีของการใช้เครื่อง CNC มีอะไรบ้าง?
1.มีความละเอียดในงาน ทำให้งานต่าง ๆ ออกมาได้มาตรฐาน
2. งานมีคุณภาพและเท่ากันทุกชิ้น เนื่องจากเป็นการสั่งงานโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในเครื่องจักร ทำให้งานที่ได้เกิดความผิดพลาดได้น้อยมาก ๆ หรือแทบไม่มีผิดพลาดเลย
3. สามารถผลิตงานออกมาได้อย่างรวดเร็ว และใช้พื้นที่ในการทำงานน้อย ประหยัดพื้นที่ในการเก็บชิ้นงาน
4. ทำงานได้ดีแม้ว่าชิ้นงานจะมีความยากและซับซ้อนสูง
5. ช่วยลดเวลาในการตรวจสอบคุณภาพของชิ้นงานลง และลดแรงงานในการผลิตลง
งานที่ต้องนำมาผลิตด้วยเครื่องกลึง CNC ก็ไม่แตกต่างจากงานที่ผลิตด้วยเครื่องกลึงแบบ Manual คือลักษณะงานส่วนมากจะเป็นทรงกระบอก การขึ้นรูปก็จะเป็นลักษณะของการกลึงภายนอก ชิ้นงานที่ผ่านการกลึงก็จะมีขนาดลดลง และงานที่กลึงภายในหรือกลึงรู หรือคว้านรู ก็จะทำให้รรูภายในชิ้นงานมรขนาดโตขึ้น ส่วนลักษณะงานอื่น ๆ เช่น กลึงเกลียวใน เกลียวนอก เจาะรู เครื่องกลึง CNC ก็เป็นฟังก์ชันพื้นฐานสำหรับเครื่องกลึง CNC
1. ลักษณะของการกลึงภายนอกหรือการกลึงปอก
ด้วยเครื่องกลึง CNC
ลักษณของการกลึงปอก เป็นการกลึงให้เส้นผ่านศูนย์กลางนอก (Outside Diameter) มีขนาดเล็กลง ถือว่าเป็นความสามารถพื้นฐานของเครื่องกลึง CNC ที่สามารถได้ งานที่ผ่านการกลึงด้วยเครื่อง CNC นอกจากความละเอียดของขนาดแล้ว ผิวของชิ้นงาน (Surface Roughness) ก็จะมีคุณภาพดีด้วยเช่นกัน
2. ลักษณของการกลึงปาดหน้าด้วยเครื่องกลึง CNC
การกลึงปาดหน้ามีวัตถุประสงค์คือ การกลึงเพื่อควบคุมความยาวของชิ้นงานและควบคุมผิวชิ้นงาน
3. ลักษณะของการกลึงคว้านรูด้านใน
โดยส่วนมากแล้วหากต้องการรูที่มีความละเอียดสูง การเจาะด้วยดอกสว่านเพียงอย่างเดียวไม่สามารถควบคุมค่าได้ การกลึงคว้านรูก็เป็นวิธีที่ใช้กันมากในการคว้านรูให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและควบคุมให้อยู่ในระดับที่ต้องการได้ ในงานกลึงด้วยเครื่อง CNC จะใช้มีกลึงที่มีขนาดเล็กในการสอดเข้าไปในรูเพื่อกลึงชิ้นงาน ยิ่งขนาดรูเล็กเท่าไหร่การกลึงก็จะยากขึ้น
4. ลักษณะของการกลึงเกลียว
การกลึงเกลียวก็จะมีลักษณะการทำงานคล้ายกับการกลึงปอก แต่ผิวงานจะไม่เรียบเหมือนงานกลึงปอก โดยเครื่อง CNC จะมีคำสั่งในการกลึงเกลียวโดยเฉพาะ และมีดกลึงก็จะเป็นมีดกลึงที่ใช้การกลึงเกลียวเฉพาะด้วยเช่นกัน
อุตสาหกรรมเครื่องจักรในปัจจุบันนี้มีการพัฒนาควบคู่ไปกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ เมื่อมีการบูรณาการเทคโนโลยี และองค์ความรู้สาขาต่าง ๆ มาต่อยอดให้กับอุตสาหกรรม ทำให้การผลิตชิ้นงานในด้านอุตสาหกรรมรวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นในการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย และในวันนี้เรามาบอกถึงข้อดีและข้อเสียของเครื่องจักรที่เป็นระบบ CNC ไปดูกันว่าทั้งข้อดีและข้อเสียมีอะไรบ้าง
ข้อดีของระบบ CNC
1.เป็นระบบเครื่องที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมงานที่มีคามละเอียดสูง ให้ชิ้นที่ออกมาเป็นไปตามมาตรฐานที่วางเอาไว้แบบไม่ผิดพลาด
2.ตัวงานที่ออกแบบแต่ละชิ้น หากเป็นชนิดเดียวกัน จะมีคุณภาพและขนาดที่เท่ากันทุก ๆ ชิ้น เพราะเป็นการสั่งงานจากระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในเครื่องจักร ไม่ได้ผ่านจากความคิดของมนุษย์ โอกาสจึงผิดพลาดต่ำมาก ๆ หรือไม่มีการผิดพลาดเกิดขึ้น
3.ผลิตงานออกมาได้อย่างรวดเร็ว ไม่เปลืองพื้นที่การทำงานและการจัดเก็บชิ้นงาน
4.ตัวงานออกมาได้มาตรฐานสูง แม้ว่าจะเป็นชิ้นงานที่มีความยากและซับซ้อนมาก
5.ลดเวลาสำหรับการตรวจสอบสภาพชิ้นงาน ช่วยลดแรงงานในการผลิตไปในตัว
ข้อเสียของระบบ CNC
1.ระบบเครื่อง CNC มีความซับซ้อนในการออกแบบและการผลิต จึงทำให้มีราคาค่อนข้างสูง อีกทั้งยังจำเป็นต้องนำเข้าและมีค่าบำรุงเครื่องจักรในราคาสูง
2.ราคาซ่อมของตัวเครื่องหากเกิดปัญหาขึ้นมีราคาสูงมาก และต้องใช้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ
3.เครื่องจักรจะต้องถูกทำงานเป็นประจำ มิเช่นนั้นจะทำให้เสื่อมสภาพ
4.ต้องมีพื้นที่มากพอให้กับผู้เขียนโปรแกรม NC
5.เหมาะสำหรับการทำงานจำนวนมาก ๆ เท่านั้น ไม่คุ้มกับการใช้ผลิตงานจำนวนน้อยชิ้น
5.ระบบการควบคุมเครื่องเป็นภาษาอังกฤษ ผู้เขียนโปรแกรมจะต้องมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี
การเลือกวัสดุที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับการออกแบบหลายชิ้นเนื่องจากการใช้เครื่องจักรซีเอ็นซีของชิ้นส่วนต้นแบบกลายเป็นเทคนิคและความต้องการมากขึ้น เกือบทุกวัสดุสามารถใช้ในเครื่อง CNC จริง ๆ มันขึ้นอยู่กับโปรแกรม วัสดุทั่วไป ได้แก่ โลหะเช่นอลูมิเนียมทองเหลืองทองแดงเหล็กและไททาเนียมรวมทั้งไม้โฟมไฟเบอร์กลาสและพลาสติกเช่นโพรพิลีน
การเลือกวัสดุพิจารณาได้ดังนี้
1.สมบัติทางกายภาพ
ขั้นตอนแรกคือการเลือกคุณสมบัติสำหรับคุณสมบัติทางกายภาพ สิ่งเหล่านี้รวมถึงสิ่งต่างๆเช่นการนำไฟฟ้าความหนาแน่นโมดูลัสความยืดหยุ่นการนำความร้อนและการขยายตัวทางความร้อน
2.สมบัติทางกล
หลังจากมีการระบุคุณสมบัติทางกายภาพแล้วจะเลือกคุณสมบัติทางกล คุณสมบัติทั่วไปคืออุณหภูมิมาตรฐานความทนแรงดึงความยืดหยุ่นและความแข็ง
3.manufacturability
ขั้นตอนนี้มักถูกเพิกเฉย แต่เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง การเลือกวัสดุที่ไม่เหมาะสมเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความสามารถในการผลิตได้คุณสมบัติเช่น formability, machinability และความสามารถในการเชื่อมได้เป็นสิ่งสำคัญ
4.การประยุกต์ใช้ด้านสิ่งแวดล้อม
ส่วนสำคัญของการเลือกวัสดุคือการตรวจสอบความสามารถในการรีไซเคิลความทนต่อแรงกระแทกความเหนียวความแข็งผิวในการสวมใส่คุณสมบัติพิเศษที่อุณหภูมิสูงการคืบคลานและการกัดกร่อน
5.ราคา
อย่าทำผิดพลาดในการเลือกวัสดุตามราคาที่ถูกที่สุด แม้ว่าราคาอาจเป็นปัจจัยการเลือกวัสดุที่ไม่ถูกต้องอาจมีราคาแพงในระยะยาว นี้สามารถเกิดขึ้นได้โดยการต้องมากกว่าวัสดุที่อ่อนแอสามารถจัดการหรือเพียงแค่ความล้มเหลวด้านสิ่งแวดล้อมหรือโปรแกรมประยุกต์
มีการตัดสินใจหลายอย่างที่จะต้องทำเมื่อเลือกวัสดุและวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการพัฒนาต้นแบบ ที่ ByTune ความมุ่งมั่นของเราเพื่อความแม่นยำสูงหมายความว่าแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิตได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบส่งผลให้ชิ้นส่วนที่มีคุณภาพสูงสุดพร้อมราคาที่เหมาะสม